ใครกำลังฝึกแต่งประโยคภาษาเกาหลี ก่อนที่เริ่มต้น เรามาดูกันคร่าวๆ ว่าในการจะแต่งประโยคภาษาเกาหลีได้ จำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางดีๆ ในการฝึกเขียน เรียนภาษาเกาหลีกันต่อไป

ใครกำลังฝึกแต่งประโยคภาษาเกาหลี ก่อนที่เริ่มต้น เรามาดูกันคร่าวๆ ว่าในการจะแต่งประโยคภาษาเกาหลีได้ จำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางดีๆ ในการฝึกเขียน เรียนภาษาเกาหลีกันต่อไป

1.รู้โครงสร้างประโยค

โครงสร้างประโยคในภาษาเกาหลีจะไม่เหมือนภาษาไทย โดยประโยคภาษาเกาหลีจะมีตัวประกอบหลักๆ คือ ประธาน + กรรม + กริยา เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น หากใครเคยดูซีรี่ย์แล้วได้ยินคำว่า “ฟังให้จบประโยคก่อน” นั่นเพราะว่า คำกริยาจะอยู่ท้ายสุดของประโยค หากต้องการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ ก็ควรฟังให้ครบ จบทั้งประโยคนั่นเอง

2.ภาษาเกาหลีมีการผันรูปประโยค

นักเรียนหลายคนที่เริ่มเรียนภาษาเกาหลี เมื่อผ่านการอ่านเขียนมาแล้ว ต้องเริ่มเรียนไวยากรณ์และการผันต่างๆ เพื่อให้ได้ประโยคที่เราต้องการ ในภาษาเกาหลีนั้นไวยากรณ์อาจจะอยู่ที่ต้นประโยค กลางประโยค หรือท้ายประโยคก็ได้ และวิธีการผันมีหลากหลายรูปแบบ แต่เมื่อเรียนไวยากรณ์มากขึ้น จะสังเกตได้ว่า การผันมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน ดังนั้น นักเรียนที่กำลังเรียนพื้นฐาน ควรเรียนให้รู้แน่ชัด เพราะความรู้พื้นฐานที่ดี นำไปสู่การเรียนไวยากรณ์ระดับสูงได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

3.ภาษาเกาหลีมีระดับ

ความท้าทายอีกอย่างหนึ่งในการเรียนภาษาเกาหลีก็คือ การใช้ไวยากรณ์และคำศัพท์ให้เหมาะสมตามคู่สนทนา เมื่อเราคุยกับใครหากเราต้องการให้เกียรติ หรือแสดงความเคารพคู่สนทนา ก็ต้องเลือกใช้คำที่เหมาะสม เช่น 먹다(กิน) เป็น 드시다(รับประทาน) เป็นต้น ดังนั้น หากต้องการแต่งประโยคให้เป็นเร็ว ก็ต้องฝึกสังเกตการใช้ภาษาและเลือกจำไวยากรณ์และคำศัพท์ที่หลากหลายมากขึ้น

4.ภาษาเกาหลีมีคำชี้

นอกจากจะมี ประธาน กริยา กรรมแล้ว ในภาษาเกาหลียังมีคำชี้ในภาษาเกาหลีอื่นๆ อีกแล้ว คำชี้ประธาน คำชี้กรรม คำชี้คำนาม ต่างๆ  มีผู้เรียนมากมายที่ถามว่า ไม่ใส่ตัวชี้ได้ไหม พูดแต่คำศัพท์และไวยากรณ์ได้หรือเปล่า หากต้องการให้ประโยคสมบูรณ์ ควรใส่คำชี้ที่เหมาะสมเข้าไปด้วย เรียนช่วงเริ่มต้น อาจมีการสับสนบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อผ่านไปสักระยะเวลาหนึ่ง เราก็จะสามรถจดจำและนำไปใช้ได้ตลอด

5.ภาษาเกาหลีมี อดีต ปัจจุบัน อนาคต

นอกจากจะต้องเรียนรู้ที่จะต้องผันรูประโยคต่างๆ แล้วนั้น เรายังต้องผันรูปเวลาอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น 해요(ทำ) 했어요(ทำแล้ว) 할 거예요(จะทำ) เป็นต้น และยังมีคำบ่งชี้เวลาอีกมากมาย แต่อย่ากังวลเกินไป เพราะการผันเวลานั้น เรียนแค่ครั้งเดียวก็สามารถนำไปใช้ได้ตลอดเช่นกัน

6.ภาษาเกาหลีมีกฎและการนอกกฎ

เป็นข่าวดีของใครที่กำลังต้องการสนทนาภาษาเกาหลี และมีเป้าหมายว่าต้องการจะออกเสียงให้เหมือนคนเกาหลีให้ได้ นอกจากจะฝึกฝนการพูดและฝึกฟังให้มากแล้ว เราก็ควรรู้กฎการออกเสียง และกฎอื่นๆ ในการใช้ภาษาเกาหลีด้วย เพื่อให้การเรียนและการพูดเป็นไปได้อย่างแม่นยำที่สุด

7.ยิ่งฝึกมาก ยิ่งเป็นเร็ว

ไม่ว่าจะเป็นการแต่งประโยค การพูด การเขียน การอ่าน ไม่ว่าจะเป็นทักษะไหน หากเราตั้งใจและให้เวลาฝึกฝน วางแผนการเรียนอย่างเหมาะสม สนุกกับการเรียนและทำอย่าสม่ำเสมอ จะทำให้เราเก่งมากขึ้น ยิ่งฝึกมากเท่าไหร่ ทำมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้เร็ว เป็นเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ตัดสินใจเรียนภาษาเกาหลีแล้ว ฝึกให้มาก และมีกำลังใจในการเรียนเสมอนะคะ!